Posted on Leave a comment

เปิดใจ ‘อ.ตู่’ นักสู้เพื่อเสรีกัญชา ตีแผ่ปัญหาใต้พรม กฎหมาย-หลอกลวง-กีดกัน หวั่นเจอทางตันกัญชาไทยกฎหมาย-หลอกลวง-กีดกัน หวั่นเจอทางตันกัญชาไทย

ไปฟังบทสัมภาษณ์เปิดใจนักต่อสู้เพื่อกฎหมายกัญชา สหายร่วมรบข้างกาย ‘ลุงตู้’ บิดากัญชาไทย ภายหลังจากได้เข้ายื่นหนังสือร่างพระราชบัญญัติพืชเสพติดให้คุณค่าทางการแพทย์ พ.ศ. . ให้กับ ปปส.ในวันนี้ (7 ก.พ.65) เพื่อสานต่อเจตจำนงค์ลุงตู้ เรียกร้องให้รัฐบาลปลดล็อคเสรีกัญชาเพื่อประชาชนอย่างเท่าเทียม โดยร่วมกับเครือข่ายสมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชนและสหภาพพยาบาลแห่งประเทศไทยเข้ายื่นหนังฯ
‘เสรีกัญชากับปัญหาใต้พรม’

เสรีกัญชากับปัญหาใต้พรม

พันตำรวจโทหญิงฐิชาลักษณ์ ณรงค์วิทย์ หรือ อาจารย์ตู่ ทีมฝ่ายกฎหมายของพรรคเขียวและเครือข่ายสมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชนเปิดใจกับ Channel Weed Thailand ว่า “นโยบายที่ผ่านมาเหมือนกับหลอกให้ชาวบ้านปลูก ปลูกแล้วขายช่อดอกไม่ได้ ต้องส่งผลผลิตให้รัฐเท่านั้น ชาวบ้านจำนวนมากหลวมตัวมาปลูกแล้วก็ไม่มีตลาดรองรับ ผลผลิตเหลือทิ้งจำนวนมาก ขณะที่กฎหมายใหม่ก็กำหนดค่าใช้จ่ายที่แพงหูฉี่ เกิดความไม่เท่าเทียมทางการแข่งขันของรายเล็กและรายใหญ่ ส่วนด้านบุคลากรการแพทย์เองก็ไม่สั่งจ่ายยากัญชาเพราะอคติส่วนตัว ภาครัฐเองก็ไม่มีความชัดเจนในเรื่องหน่วยงานกำกับดูแลระดับ National Agency เหมือนกับโมเดลที่ต่างประเทศใช้”


ปัญหาของกระบวนการผลักดันกัญชาเสรีในไทยเหมือนกับการ “ติดกระดุมผิดเม็ด” เราไม่ได้ส่งเสริมนโยบายกัญชาจากฐานราก จึงเหมือนกับการเดินขึ้นบันไดแบบข้ามขั้นที่สุดท้ายแล้วอาจพลาดจนไปไม่ถึงเป้าหมาย ที่ผ่านมานโยบายกัญชาไทยเน้นไปที่เชิงเศรษฐกิจ เหมือนกับที่เราได้เห็นบริษัทใหญ่รุมทึ้งอุตสาหกรรมกัญชา เกิดฟาร์มจำนวนมาก ตลาดหุ้นสายเขียวก็เด้งยกกระดาน ขณะที่นายทุนปลูกได้แต่วันนี้ผู้ป่วยที่ปลูกกลับถูกจับและยังคงแน่ชัดว่าคนธรรมดาปลูกไม่ได้ ฝ่ายรัฐก็ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนที่จะทำให้มันเหกิดขึ้นได้จริง ทั้งที่การปลดล็อคกัญชาทั่วโลกเค้าต้องเริ่มทำกันเป็นขั้นบันใด

ทางตันเสรีกัญชาไทย!?

พรบ.ยาเสพติดฉบับใหม่ที่ถูกเสนอมีปัญหาทั้งในเชิงบังคับใช้จริงและหลักการสากล กล่าวคือ กัญชายังถูกกำหนดให้เป็นยาเสพติดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ยส.5) แม้จะระบุใน พรบ.ยาเสพติดฉบับใหญ่ว่าไม่กัญชาอยู่แล้วก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือยังคงมีการตามจับผู้ป่วยที่ปลูกกัญชาเพื่อรักษาตัวเอง ทั้งยังไม่มีแนวทางควบคุมที่ชัดเจนจึงมองว่าแนวทางนี้มันไม่สามารถนำไปใช้ได้จริง คล้ายกับว่าเป็นการ “กำกับดูแลเชิงกีดกัน” นอกจากนี้ พรบ.ฉบับใหม่ยังขัดกับกฎหมายโลกซึ่งถือว่าศักดิ์ใหญ่กว่ากฎหมายไทย โดยเฉพาะอนุสัญญาของ UN ที่กำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องปลดล็อคกัญชาเสรีอย่างมีขอบเขต


“กฎหมายปลดล็อคกัญชาที่ไทยเสนอในวันนี้ เป็นไปได้ยากในเชิงบังคับใช้จริง ทั้งยังเป็นไปได้ยากที่ UN จะอนุมัติให้ไทยดำเนินการ เพราะเป็นการปลดล็อคแบบไร้หลักการและการกำกับดูแลที่ชัดเจน ตลอดจนไม่เป็นไปตามแนวทางที่ประเทศอื่นได้ดำเนินการ ทั้งยังเชื่อว่าอาจไม่สามารถประกาศใช้จริงได้ทันรัฐบาลชุดนี้ จากปัจจัยทางการเมืองที่ไม่มั่นคง อีกทั้งระยะเวลาดำเนินการที่มากเพราะต้องผ่านหลายด่านตั้งแต่คณะกรรมการไปจนถึงรัฐสภา”


“กฎหมายภาคประชาชนที่เคยเสนอไปเหตุใดจึงไม่ยอมรับฟังบ้าง เหตุใดไม่นำหลักการที่ประชาชนเสนอไปบรรจุใน พรบ.ยาเสพติดฉบับใหม่ อยากให้ท่านฟังเสียงประชาชนบ้าง เพราะเป็นแนวทางกัญชาเสรีแบบที่สายเขียวต้องการ แต่วันนี้เราได้เห็นแต่นโยบายกำกับเชิงกีดกันที่ไม่เป็นธรรม คล้ายการกักขังผลประโยชน์กัญชาไว้กับคนเพียงไม่กี่กลุ่ม แต่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจเชิงนโยบายของท่าน” อาจารย์ตู่กล่าว


กัญชาไทยต้องเสรี…แต่มีขอบเขต

พันตำรวจโทหญิงฐิชาลักษณ์ ฝากไปถึงความในใจไปถึงสายเขียวทั่วประเทศในประเด็นกัญชาสันทนาการว่า อยากย้ำว่ากัญชาไทยเสรีต้องมีขอบเขต การบริโภคกัญชาจำเป็นต้องมีกฏเกณฑ์ควบคุม ไม่สามารถสูบกัญชาเสรีแบบที่คิดกันได้ ประกอบกับ กัญชาคือหนึ่งในโฆษณาชวนเชื่อที่ยาวนานในสังคมไทย ความเชื่อความกลัวล้วนเกิดจากศรัทธามิใช่ความรู้ จึงอยากให้สายเขียวทุกคนช่วยกันถ่ายทอดความรู้เรื่องกัญชาในทางที่ดีไปสู่สังคมเพื่อทำความเข้าใจร่วมกัญ เวลานี้ถือเป็นช่วงที่สายเขียวจะต้องเข้มแข็งสามัคคีเป็นกลุ่มก้อนร่วมกับติดตามตรวจสอบนโยบายปลดล็อคกัญชาเสรีของบ้านเราให้ตกไปถึงมือประชาชนโดยแท้จริง ยืนยันว่ากัญชาไทยได้เสรีแน่ๆแต่อาจไม่ใช่ปีนี้


ส่วนประเด็นเรื่องการปลดล็อค THC นั้น แน่นอนว่าสายเขียวทุกคนต้องเห็นด้วย แม้จะมีเงื่อนไข THC ห้ามเกิน 0.2% ของ UN แต่ประเทศเราสามารถเปิดโซนเสรี THC ได้เป็น Sandbox หากชี้แจงว่าเป็นโซนเพื่อใช้สารมึนเมาเพื่อผลประโยชน์เชิงการแพทย์ยอ่มทำได้แน่นอน อีกทั้งภาคประชาชนก็มีงานวิจัยยืนยันได้ว่า THC รักษาผู้ป่วยหายได้มากกว่า 88% เป็นข้อมูลเชิงวิชาการที่ประจักษ์ตรวจสอบได้จัดทำโดยภาคประชาชนกัญชา


ฮึ่ม! ม็อบสายเขียวนับพันคน เตรียมยกพลเรียกร้องปลดล็อคเสรี

อ.ตู้ยังเล่าให้ฟังอีกว่า ตอนแรกในวันนี้ที่ได้ไปยื่นหนังสือจะมีเครือข่ายพยาบาลและบุคลากรสายเขียวของแต่ละจังหวัดจำนวน 77 จังหวัด รวมทั่วประเทศก็คงเกือบ 1000 คน ซึ่งจะมีการส่งตัวแทนเข้ามากรุงเทพเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมในนโยบายกัญชา เพราะที่ผ่านมายังไม่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากพอ ทว่าดิฉันได้หยุดเอาไว้ก่อนเพราะเกรงว่าจะขัดกับกฎหมายเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นไม่แน่ว่าถ้าเสียงประชาชนยังถูกรับฟัง พวกเขาอาจออกมาแสดงตัวเพื่อรวมพลังกัญเรียกร้องก็เป็นได้