


พรบ.กัญชา เดิมพันเก้าอี้ทางการเมือง
พรบ. กัญชา ที่กำลังส่งร่างเข้าสภาของพรรคภูมิใจไทยนั้น มีจุดเริ่มต้นมาจาก แกนหลักรัฐบาลเริ่มมองมาที่ความล้มเหลวของ ภูมิใจไทยในการทำนโยบายกัญชา จึงเริ่มเกิดกระแสการเคลื่อนไหวเพื่อนำนโยบายกัญชาไปต่อยอดโดยรัฐบาลหลัก

ปลูกกัญชาไม่ผิดกฏหมาย
พรรคภูมิใจไทยจึงต้องเคลื่อนไหว ออกมายืนยันถึงความคืบหน้าในปลดล๊อกกัญชา ว่าได้ทำผลงานให้ชัดเจนต่อสาธารณะชนแล้วด้วยการถอดกัญชาออกจาก ประเภท 5 ของ พรบ. ยาเสพติดอันตราย นั่นหมายถึงกัญชาไม่ใช่ยาเสพติดอีกต่อไป


ประชาชนปลูกกัญชาได้ แต่ห้ามใช้กัญชานันทนาการ ตาม พรบ.กัญชา อย.
แต่ก็มีหลายฝ่ายมาแย้งเพื่อหาความชัดเจนในการปฏิบัติงาน เรียกร้องให้มีการร่างกฏหมายให้ชัดเจนลดความสับสนใจการปฏิบัติหน้าที่ จึงได้มีการเสนอให้ทำร่าง พรบ.กัญชา ขึ้นมาเพื่อสร้างความชัดเจน
โดยมี อย.เป็นแม่งานในการ ร่าง พรบ.กัญชาขึ้นมาและเสนอต่อสังคม ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า พรบ.กัญชา ใหม่จะเป็นไปตามเนื้อหา พรบ.ของ อย. ซึ่งมีเงื่องไขข้อจำกัดแบบกฏหมายกัญชาเดิม จึงเกิดความเชื่อขึ้นมาว่าหลังปลดล๊อคแล้วจะกลับเป็นแบบเดิมแน่ๆ ร้อนไปถึง ภูมิใจไทยเจ้าของนโยบายต้องรีบออกมาสร้างความชัดเจนโดยออก พรบ.กัญชา แล้วส่งเข้าไปสู่สภาและเปิดร่างเนื้อหาของ พรบ.กัญชา ให้สาธารณะชนรับรู้

พรบ.กัญชา กับกลุ่มผู้เสียประโยชน์
แต่ความสับสนยังไม่หมดลงง่าย หลายฝ่ายยังปักใจเชื่อว่าสุดท้ายสถานการณ์กัญชาจะกลับมาเป็นไปตาม พรบ.กัญชา ของ อย. อยู่ดี ประกอบกับมีกลุ่มผู้เสียผลประโยชน์เริ่มออกมาส่งเสียงขัดขวางพรบ.กัญชาฉบับนี้ หยิบยกเอาประเด็นข้อจำกัดต่างๆทั้งจากในพรบ.กัญชาอย. กฏกระทรวงกัญชาฉบับเก่า และ พรบ.กัญชาภูมิใจไทย มาขยายความ จริงบ้างเท็จบ้าง สร้างความเข้าใจผิด ลดความเชื่อมั่นเพื่อขวางไม่ให้ พรบ.กัญชา ฉบับนี้สำเร็จได้


พรบ.กัญชา ในมุมมองภาคประชาชน
ภาคประชาชนหลายส่วนเริ่มเห็นออกมาจับตาดูกลัวว่าสุดท้าย พรบ.กัญชา ใหม่อาจมีเนื้อหาที่เกษตรกรจะไม่ได้ประโยชน์ สุดท้ายนายทุนใหญ่ใช้ใช้ พรบ.กัญชาในการที่จะผูกขาด มองว่าไม่ควรเชื่อใจให้พรรคการเมืองทำพรบ.กัญชา เพียงลำพังจึงเริ่มเดินหน้าร่าง พรบ.กัญชา ภาคประชาชน เพื่อเตรียมเสนอเข้าไปเมื่อ พรบ.กัญชาของภาครัฐนั้นไม่ตอบโจทย์ของประชาชน

หลายฝ่ายประเมินตรงกันว่าถ้าหลุดกรอบ120วันนี้ไปจะยุ่งขิงยิ่งกว่าเก่า เพราะการทำ พรบ.กัญชา ขึ้นใหม่โดยเริ่มจากภาคประชาชนอาจกินเวลามากกว่า 1 ปี อาจติดขัดจนไปถึงต้องใช้การเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งจะต้องใช้นโยบาย พรบ.กัญชา ของแต่ละพรรคมาวัดกันในการหาเสียง


สุดท้ายระหว่างที่ต้องรอพรบ.กัญชาประกาศใช้ ผู้ป่วยจะยังคงเข้าถึงยากัญชาไม่ได้ ผู้ใช้กัญชายังตกเป็นอาชญากร ธุรกิจก็ยังคงต้องจมอยู่กับตลาดผูกขาดต่อไป แถมยังทำกำไรไม่ได้เพราะเมื่อดอกขายไม่ได้ อุตสาหกรรมกัญชาก็มิอาจเติบโต สุดท้ายรัฐและประเทศชาติเองก็จะไม่ได้อะไรจากกัญชาเลย ถ้าไม่เร่งทำ พรบ.กัญชา โดยมีเนื้อหาเพื่อประชาชน สุดท้ายทุกคนก็จะเสียของไปปล่าวๆ

